เมื่อการซื้อข้าวคือการช่วยนกกระเรียนได้พบทางรอด

"ข้าวนกกระเรียน" ข้าวคุณภาพสูงเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของจังหวัดบุรีรัมย์ ข้าวสีม่วงที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการอุดตันของไขมันในเส้นเลือด ป้องกันโรคเบาหวานและมะเร็ง เป็นข้าวอินทรีย์ที่เกื้อกูลให้นกกระเรียนไทยซึ่งเคยถูกบันทึกว่าสูญพันธุ์ไปแล้วกลับมาอาศัยและขยายพันธุ์ตามธรรมชาติอีกครั้ง เพราะกระบวนการผลิตข้าวที่ใส่ใจต่อชีวิตและธรรมชาติ จึงทำให้ชุบชีวิตนกกระเรียนและสร้างระบบนิเวศน์ที่ยั่งยืน



ทราบหรือไม่ว่านกกระเรียนพันธุ์ไทยแท้ ๆ ซึ่งเป็นนกบินได้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสัตว์ป่าสงวนของไทย และจัดว่าเป็นตัววัดความสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์พื้นที่ชุ่มน้ำ เช่นเดียวกับเสือหรือนกเงือกเลยทีเดียว แต่นกกระเรียนได้หายไปจากแหล่งที่อยู่ธรรมชาติแล้วกว่า 50 ปี โดยมีรายงานการพบเห็นนกกระเรียนในธรรมชาติครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2511 สันนิษฐานว่ามันอาจถูกมนุษย์ล่ามาตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และอีกสาเหตุหนึ่งคือ การเกษตรสมัยใหม่ที่ใช้สารเคมีกันอย่างกว้างขวางทำให้นกกระเรียนขาดแหล่งอาหารและพื้นที่อยู่อาศัย



แล้วแหล่งที่อยู่ตามธรรมชาติของนกกระเรียนที่ว่า คือที่พื้นที่แบบไหนล่ะ
แหล่งที่อยู่ที่เหมาะสมสำหรับนกกระเรียนก็คือ พื้นที่ชุ่มน้ำที่สะอาดๆ เช่น หนองน้ำ บึงน้ำ และท้องนา

ในอดีตได้มีโครงการนำนกกระเรียนในที่เพาะเลี้ยงไปปล่อยในธรรมชาติมาแล้วหลายครั้งแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จนกระทั่งราว 10 ปีที่ผ่านมา องค์การสวนสัตว์และกรมอุทยานแห่งชาติ ได้ก่อตั้งโครงการ“นกกระเรียนพันธุ์ไทยคืนถิ่น” หรือ "Sarus Crane Reintroduction Project" ขึ้นเพื่อนำนกกระเรียนไปปล่อยในธรรมชาติอีกครั้ง โดยครั้งนี้ได้มีการศึกษาค้นคว้า และ คัดเลือกพื้นที่ที่เหมาะแก่การอยู่ของนกกระเรียน ซึ่งผลการศึกษากันมาอย่างยาวนานก็ได้ข้อสรุปไปที่ บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ชุมน้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

โดยความสำเร็จของโครงการนี้ก็ได้มีแสงสว่างเพิ่มขึ้นทุกขณะ โดย ในปัจจุบันมีนกกระเรียนในธรรมชาติแล้วกว่า 50 ตัว และมีลูกนกที่เกิดใหม่ตามธรรมชาติทุกปี



แล้วการซื้อข้าวจะช่วยอะไรนกกระเรียนได้อย่างไร
การซื้อ "ข้าวนกกระเรียน" จะเป็นการช่วยชาวนาในพื้นที่อาศัยของนกกระเรียนให้สามารถเพิ่มพื้นที่นาอินทรีย์(ไม่ใช้สารเคมี)เพื่อขยายแหล่งอาหารและที่อยู่ของนกกระเรียนให้กว้างขึ้น จะทำให้เกิดการขยายพันธุ์ของนกกระเรียนเพิ่มขึ้น เนื่องจากนกกระเรียนจะอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีสารเคมีเท่านั้น โดยนกกระเรียนจะหากิน สัตว์เล็ก เช่น กุ้ง ปู หอย หรือ ปลาที่อยู่ในท้องนา จึงมีชาวนาจำนวนหนึ่งได้รวมกลุ่มกัน ทำนาแบบอินทรีย์ เพื่อสนับสนุนการขยายพันธุ์นกกระเรียนโดยได้รับการส่งเสริมจากองค์การสวนสัตว์ และ TRUE โดยผลที่ได้คือ นกจะทำลายข้าวบ้างเพียงเล็กน้อย แต่ระบบนิเวศน์จะฟื้นตัวเพราะปลอดสารเคมี ทำให้"ข้าวนกกระเรียน"นี้ได้มีส่วนช่วยให้นกกระเรียนอยู่รอดในธรรมชาติอย่างยั่งยืนต่อไป



"ข้าวนกกระเรียน" ดีอย่างไร
เป็นข้าวคุณภาพสูงอัตลักษณ์หนึ่งเดียวของบุรีรัมย์ จากผืนนาข้าวอินทรีย์แห่งเดียวของประเทศไทย ที่นกกระเรียนไทย สัตว์ที่ถูกบันทึกว่าสูญพันธุ์ไปแล้วได้กลับมาอาศัยขยายพันธุ์ตามธรรมชาติอีกครั้ง ด้วยขบวนการผลิตที่ใส่ใจต่อชีวิตและธรรมชาติ จึงได้ข้าวที่สะอาด หอม อร่อย มีคุณค่าทางอาหาร พร้อมทั้งช่วยปกป้องระบบนิเวศให้ยั่งยืน

"ข้าวนกกระเรียน" คือ "ข้าวมะลินิล สายพันธุ์จังหวัดสุรินทร์" เป็นข้าวเจ้าหอมต่างสี เป็นข้าวกล้องสีดำ เป็นข้าวเมล็ดเรียวยาว มีปริมาณอะมิโลสต่ำ อุณหภูมิแป้งสุกต่ำ คุณภาพข้าวสุกนุ่ม และมีกลิ่นหอม ข้าวมะลินิลสุรินทร์ มีโปรตีนเป็น 2 เท่าของข้าวขาวดอกมะลิ 105 และยังประกอบไปด้วยสารอาหารมากมาย เช่น ธาตุเหล็ก สังกะสี ทองแดง โปแตสเซียม แคลเซียม และวิตามินบีหลายชนิด

สารสีม่วงของ "ข้าวมะลินิล" มีสารประกอบที่สำคัญ คือ แอนโทไซยานิน มีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบของเนื้อเยื่อ ช่วยลดการอุดตันของไขมันในเส้นเลือด ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน เพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น และบำรุสายตา ป้องกันมะเร็งทรวงอก มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งเม็ดเลือดขาว